แปรซังข้าวโพดอัดเม็ดลดมลพิษ
มช.แปรรูปซังข้าวโพดด้วยเทคโนโลยี "เชื้อเพลิงอัดเม็ด" ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน พร้อมแก้ปัญหาหมอกควันจากการเผาทำลายซังข้าวโพด รศ.ดร.ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เปิดเผยว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา จ.เชียงใหม่ประสบปัญหาหมอกควันที่เกิดจากไฟป่า การเผาทำลายเศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ซังข้าวโพด ฟางข้าว กิ่งไม้ โดยเฉพาะที่ อ.แม่แจ่ม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลูกข้าวโพดสูงสุดใน จ.เชียงใหม่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและการท่องเที่ยว สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ จึงมีแนวคิดในการนำซังข้าวโพดมาแปรรูปด้วยเทคโนโลยี "เชื้อเพลิงอัดเม็ด" โดยนำมาผ่านกระบวนการย่อยด้วยเครื่องสับย่อยซังข้าวโพดให้มีขนาดเหมาะสม สำหรับการอัดเม็ดด้วยเครื่องสับย่อยที่มีกำลังการผลิต 200 กิโลกรัม/ชั่วโมง และนำมาอัดแท่งด้วยเครื่องอัดเม็ดเชื้อเพลิงที่มีกำลังการผลิต 150-200 กิโลกรัม/ชั่วโมง ผลผลิตที่ได้สามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงที่ให้ประสิทธิภาพพลังงานในการเผาไหม้ และให้ปริมาณค่าความร้อนที่สูง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ลดค่าขนส่งเพราะเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งที่มีปริมาตรลดลง ที่สำคัญช่วยลดปัญหาการเผาทำลายซังข้าวโพดที่ก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันด้วย.
1 มกราคม 2557     |      4280
ผุดกังหันลมเพื่อทิวทัศน์ ช่วยลดมลภาวะทางศิลปะ
กังหันลมที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าทุกวันนี้ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังไม่วายมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง ทั้งเสียงความถี่ต่ำคล้ายเสียงลำโพงซับวูฟเฟอร์ที่สร้างความรำคาญให้กับผู้ ที่อยู่ใกล้เคียง ใบพัดขนาดใหญ่ที่ทำให้กินพื้นที่มาก ตลอดจนจำนวนมากมายของกังหันเหล่านี้ที่มักไปอยู่ในตำแหน่งเปิดโล่งเพื่อรับ ลม กลายเป็นมลภาวะทางทัศนียภาพไปโดยปริยาย ท่ามกลางภาวะน้ำมันแพง จากทั้งความวุ่นวายในตะวันออกกลาง ความต้องการที่พุ่งกระฉูด และความอนิจจังของน้ำมันในโลกที่คงต้องเหี้ยนเต้ไปในอีกไม่กี่ปี มนุษย์จำเป็นต้องพัฒนาพลังงานทางเลือกอื่นและลงมือให้ทุกอย่างเป็นรูปธรรม ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ เอ็น แอล อาจิเทค บริษัทสถาปนิกจากประเทศฮอลแลนด์ ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ และเสนอร่างแผน หรือ "คอนเซ็ปต์" การออกแบบสังคมในอนาคตที่เชื่อมต่อเข้ากับกังหันลมที่ได้รับการออกแบบใหม่ ให้ขจัดปัญหาข้างต้นออกไป และมีลักษณะกลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อลดมลภาวะทิวทัศน์ กังหันลม "เอ๊ดดี้" ออกแบบมาให้เป็นกังหันแนวตั้งเพื่อลดข้อจำกัดเรื่องของพื้นที่ และด้วยขนาดที่เล็กกว่ากังหันแบบใบพัดขนาดใหญ่ทำให้เสียงความถี่ต่ำลดลงไป ด้วย อยู่ที่ 42.8 เดซิเบล หรือราวๆ เสียงตู้เย็นในบ้านทั่วไป โดยกังหันเอ๊ดดี้จะถูกติดตั้งไว้บนเสาที่ได้รับการออกแบบมาให้เลียนแบบลำต้น และกิ่งก้านสาขาของต้นไม้เพื่อเพิ่มความสวยงาม เรียกว่า "พาวเวอร์ ฟลาวเวอร์" หนึ่งต้นติดตั้งกังหันเอ๊ดดี้ได้ 12 ชุด ซึ่งจะได้รับการติดตั้งไว้ตามถนน หลังคาบ้าน ดาดฟ้าอาคาร และในสวนสาธารณะของชุมชนต่างๆ ในขนาดที่แตกต่างกัน ด้านบริษัทผู้ออกแบบ ระบุว่า กังหันเอ๊ดดี้นั้นติดตั้งง่าย ใช้เวลาในการประกอบไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทนต่อความเร็วลมได้สูงสุด 54 เมตรต่อวินาที หรือ 193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่ากับพายุเฮอริเคนระดับกลาง มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 20 ปี เอ๊ดดี้ 1 ชุด ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 13,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ภายใต้กระแสลมความเร็ว 5 เมตรต่อวินาที หรือ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนพาวเวอร์ ฟลาวเวอร์ ขนาดใหญ่สุดที่มีเอ๊ดดี้อยู่ 12 ชุด จะผลิตไฟฟ้าได้ราว 55,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ภายใต้ความเร็วลมเดียวกัน ในขั้นต่อไปคือ การนำคอนเซ็ปต์ไปประมวลตามข้อเท็จจริงทางด้านวิศวกรรม เพื่อประเมินว่าจะทำให้เป็นจริงได้อย่างไร ...ว่าแต่ถ้าเป็นจริงขึ้นมาได้ ไม่รู้จะรับกันได้หรือไม่ ถ้าต้องมีพาวเวอร์ ฟลาวเวอร์มาตั้งอยู่ข้างๆ บ้านตัวเอง
1 มกราคม 2557     |      4060
โรคร้ายจากภัยโลกร้อน
องค์การอนามัยโลกระบุว่า ปัญหาโลกร้อนใช่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังนำโรคร้ายสารพัดสารพันชนิดมาสู่เราโดยไม่รู้ตัว และนี่เป็นตัวอย่างโรคร้ายใกล้ตัวที่มากับโลกร้อนที่พึงรู้และตระหนักในพิษ ภัยเอาไว้ จะได้รับมือกับเจ้าตัวร้ายอย่างรู้เท่าทัน 1. ภาวะเป็นลมจากความร้อนสูงหรือโรคลมเหตุร้อน (Heat Stroke) อย่าเพิ่งชะล่าใจว่าเราเกิดและโตท่ามกลางสภาพอากาศร้อนอบอ้าว เพราะถ้าอุณหภูมิพุ่งขึ้นกว่านี้อีก 7 - 10 องศาเซลเซียส รวมถึงหากออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาในภาวะอากาศร้อนจัดนานๆ จนอุณหภูมิในร่างกายสูงเกินขีดจะทนทานไหว (พุ่งถึง 40 องศาเซลเซียส) ก็จะทำให้เกิด “ภาวะเป็นลมจากความร้อนสูง” ซึ่งน่าสะพรึงกลัวอยู่ไม่น้อย คนที่มีอาการสังเกตได้จากตัวจะร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ แม้ในตัวจะร้อน แต่กลับไม่มีเหงื่อออก นอกจากนี้ยังปวดศีรษะ วิงเวียน คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน และอาจถึงขั้นเกิดอาการช็อกอย่างเฉียบพลันถึงขั้นเสียชีวิตได้หากร่างกายสูญ เสียน้ำและเกลือแร่จนปรับตัวไม่ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยู่ในบริเวณนั้นคนเดียว วิธีรับมือ : รีบนำผู้ป่วยเข้าที่ร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง คลายเสื้อผ้าเพื่อระบายความร้อน ประคบผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งที่ศีรษะ ซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน พร้อมใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน อย่านิ่งนอนใจ รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน . โรคหัวใจ บางคนอาจสงสัยว่าโรคหัวใจเกี่ยวข้องอย่างไรกับโลกร้อน ทั้งนี้แพทย์แห่งสถาบันคาโรลินสกา สวีเดน ชี้ว่า เพียงโลกร้อนขึ้นอีกไม่กี่องศา อาจทำให้มีผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจมากขึ้น เพราะเมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นก็จะขับเหงื่อออกมาเพื่อบรรเทาความร้อน ส่งผลให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น หัวใจของเราจึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดให้ไหลเวียนทั่วร่างกาย ยิ่งถ้าคนที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว รวมถึงคนสูงวัยที่ระบบการเต้นของหัวใจมีปัญหา อากาศร้อนจะเป็นเพชฌฆาตที่คร่าชีวิตได้เลยทีเดียว ผู้เชี่ยวชาญยังระบุอีกว่า มลพิษทางอากาศจากปัญหาโลกร้อนก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้ประชากรโลกป่วยเป็น โรคหัวใจมากขึ้นเนื่องจากการสูดดมอากาศพิษเข้าไปมากๆ ปอดจะปนเปื้อนด้วยสารพิษ ส่งผลต่อการทำงานของระบบหัวใจโดยตรง วิธีรับมือ : หลีกเลี่ยงการทำให้หัวใจทำงานเร็วผิดปกติจากปัจจัยข้างต้น งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าวมากๆ เพราะแอลกอฮอล์จะซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น ร่างกายปรับสภาพไม่ทันถึงขั้นเกิดภาวะช็อกได้ 3. ไข้สมองอักเสบ โรคไข้สมองอักเสบมีหลายชนิด แต่ที่พบในไทยส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส JapaneseEncephalitis (JE) ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยอัตราการป่วยตายอยู่ในช่วงร้อยละ 20 - 30 พาหะนำโรคร้ายนี้คือยุงรำคาญ (ที่เติบโตและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วเมื่ออุณหภูมิโลกร้อนขึ้น) ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการในเบื้องต้น ต่อมาจะมีไข้ ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ ง่วงซึม เกร็ง ชักกระตุก หายใจไม่สม่ำเสมอ และในรายที่รุนแรงมากอาจเสียชีวิตในวันที่ 7 - 9 หลังการได้รับเชื้อ แม้ผ่านพ้นระยะนี้ไปได้จะเข้าสู่ระยะฟื้นตัวในช่วง 4 - 7 สัปดาห์ แต่เมื่อหายแล้วผู้ป่วยราวร้อยละ 60 จะมีความพิการเหลืออยู่ เช่น เป็นอัมพาตแบบแข็งเกร็งสมองเสื่อม วิธีรับมือ : ยังไม่มียารักษาเป็นการเฉพาะ มีเพียงการรักษาแบบประคับประคองตามอาการเท่านั้น บางรายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกยุงกัดในช่วงพลบค่ำเป็นดีที่สุด 4. อาหารเป็นพิษ ดูจะเป็นโรคที่แสนธรรมดาและเชื่อว่าหลายคนคุ้นเคย แต่โรคนี้ก็ติดโผด้วย เพราะในสภาพที่อากาศร้อนขึ้น แบคทีเรียจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อมีปริมาณมากพอก็จะทำให้ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีเชื้อแบคทีเรียปน เปื้อนอยู่เกิดอาการป่วย เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน มีไข้ ถ่ายเหลว บางรายมีอาการลำไส้อักเสบและปวดเมื่อยตามเนื้อตัว วิธีรับมือ : ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุงและกินอาหาร ดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำต้มสุกทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือขนมค้างคืนที่ผสมกะทิ ล้างผักผลไม้ด้วยน้ำไหล หรือแช่ด่างทับทิมทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เลี่ยงอาหารทะเลสุกๆ ดิบๆ หรืออาหารทะเลที่กินโดยไม่ผ่านการปรุงสุก (เมนูที่บีบมะนาวใส่โดยเข้าใจว่าอาหารสุกเพราะสีของเนื้อ) 5. ภูมิแพ้จากไรฝุ่น ผศ.นพ. เฉลิมชัย บุญะลีพรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระบุว่า คนจะเป็นโรคภูมิแพ้จากไรฝุ่นมากขึ้น เพราะยุงและแมลงเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาคมากขึ้น ทั้งนี้ไรฝุ่นชอบอยู่ในที่ร้อนและชื้น เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ไรฝุ่นจะยิ่งเพิ่มปริมาณ จึงไม่น่าแปลกใจที่ในปัจจุบันคนไทยวัยผู้ใหญ่เป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก (โรคหวัดเรื้อรังจากภูมิแพ้) เพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัวเมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน วิธีรับมือ : ในเบื้องต้นให้เลี่ยงสิ่งที่แพ้ อาทิ ควันบุหรี่ หรือแพ้ฝุ่น หลีกเลี่ยงการนอนน้อยเกินไป (น้อยกว่า 6 ชั่วโมง) หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ในกรณีที่เป็นบ่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาด้วยยารับประทานหรือยาพ่นจมูก
1 มกราคม 2557     |      4340
ประกวดวาดภาพ "เยาวชนไทย ใส่ใจรักษ์พลังงาน"
กระทรวงพลังงานชวนร่วมปล่อยของ...ประลองฝีแปรง กับการประกวดวาดภาพหัวข้อ "เยาวชนไทย ใส่ใจรักษ์พลังงาน" ตั้งแต่ 1 ก.พ. - 30 มี.ค. 2554 สำนักพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จัดการแข่งขันประกวดวาดภาพ หัวข้อ "เยาวชนไทย ใส่ใจรักษ์พลังงาน" เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน และมีจิตสำนึกรักษ์พลังงาน ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 150,000 บาท การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ระดับ ดังนี้ 1. ระดับอาชีวศึกษาทั่วประเทศ 2. ระดับมัธยมศึกษา โดยแบ่งเป็นระดับภาค จำนวน 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ หลักเกณฑ์การเข้าร่วมแข่งขัน ผู้เข้าประกวดแต่ละท่าน สามารถส่งผลงานได้มากกว่า 1 ชิ้น แต่มีสิทธิ์รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว ภาพวาดต้องเป็นผลงานที่ผู้เข้าแข่งขันสร้างสรรค์ด้วยตนเอง มิได้ทำซ้ำ คัดลอก เลียนแบบ หรือดัดแปลงของผู้อื่น ส่งภาพวาดได้ไม่จำกัดเทคนิคและสีสัน (ห้ามใช้กระบวนการวาดและตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์) ลงบนกระดาษขนาด A3 (30x42 ซม.) ติดลงฟิวเจอร์บอร์ดหรือกระดาษแข็ง เว้นขอบด้านละ 1 นิ้ว พร้อมระบุแนวคิดติดมาที่ด้านหลังของภาพให้ชัดเจน การส่งผลงาน ระบุแนวคิด ชื่อ-นามสกุล ระดับการศึกษา ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์(ถ้ามี) ติดมาด้านหลังผลงานให้ชัดเจน และส่งผลงานมาที่ สำนักพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120 วงเล็บมุมซอง : (ประกวดภาพวาด) เยาวชนที่สนใจสามารถส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ตั้งแต่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 30 มีนาคม 2554
1 มกราคม 2557     |      5262
สัมมนา ?เบิกทาง SMEs ตีตลาดสีเขียว?
TCDC เชิญร่วมงานสัมมนาเชิงปฎิบัติการ “เบิกทาง SMEs ตีตลาดสีเขียว” วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 ศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (eXcellent Center for Eco Products: XCEP) ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (National Metal and Materials Technology Center: MTEC) ร่วมกับห้องสมุดวัสดุเพื่อการออกแบบ (Material ConneXion® Bangkok) และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (Thailand Creative & Design Center: TCDC) จัดสัมมนาเชิงปฎิบัติการในหัวข้อ “เบิกทาง SMEs ตีตลาดสีเขียว” เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการในการดำเนินการจัดการและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจของ ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การสัมมนาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ก่อนก้าวสู่ตลาดในยุคเศรษฐกิจสีเขียว โดยมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดสีเขียว และความสำคัญของการส่งเสริมตลาดสินค้าสีเขียว พร้อมระบบการจัดการในการก้าวสู่ตลาดสีเขียว ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ อีกทั้งยังมุ่งสร้างความเข้าใจในเรื่องฉลากสิ่งแวดล้อม (ฉลากเขียว) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นส่งผลกระทบต่อสิ่ง แวดล้อมมากน้อยเพียงใด และที่สําคัญยังช่วยเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์และการบริการอีกด้วย ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานสัมมนา “เบิกทาง SMEs ตีตลาดสีเขียว” ได้ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 10.30-18.00 น. ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 6 ดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ สำรองที่นั่งได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ TCDC โทร. 0-2664-8448 ต่อ 213, 214 หมายเหตุ 1. งานสัมมนานี้รับจำนวนจำกัด ไม่เกิน 50 ท่านเท่านั้น 2. กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้าทางโทรศัพท์ และโปรดมาลงทะเบียนยืนยันการเข้าร่วมงานก่อนงานเริ่มอย่างน้อย 30 นาที 3. การบรรยายเหมาะสำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (ทั้งสมาชิก TCDC และบุคคลทั่วไป) 4. ดำเนินการสัมมนาเป็นภาษาไทยเท่านั้น 5. ค่าจอดรถเป็นไปตามระเบียบของห้างเอ็มโพเรียม TCDC จะมีคูปองให้ฟรี 2 ชม.
1 มกราคม 2557     |      2768
จำหน่ายสินโครงการหลวงทุกประเภท ผักปลอดสาร ผัก organic สด ใหม่ พร้อมส่งถึงที่ ทุกวัน
ณ วันนี้ หากท่านต้องซื้อผักหรือผลไม้เพื่อรับประทานในครัวเรือน ท่านเห็นด้วยมั้ยกับประโยคที่ว่า "ไม่รู้มียาฆ่าแมลงหรือสารตกค้างอยู่มากเท่าไร ต้องล้างสักกี่น้ำถึงจะปลอดภัย" ผักและผลไม้ที่ปลอดภัยจริง ๆ หาได้ยากมาก และถึงแม้ว่าท่านจะทราบแหล่งซื้อ แต่ก็ต้องเดินทาง ทำให้ไม่สะดวกและเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางเพื่อแลกกับสุขภาพของท่านและคน รอบข้าง หากท่านรู้จักและชื่นชอบที่จะบริโภคสินค้าโครงการหลวง ผัดปลอดสาร หรือผัก organic เพื่อสุขภาพของตัวท่านและคนรอบข้าง วันนี้เราคือผู้จำหน่ายผัก ผลไม้ที่ปลอดภัยเหล่านั้น และพร้อมให้บริการ รับสั่งสินค้าและส่งให้ถึงที่ ไม่ได้ของหรือหากรับของแล้วไม่พอใจ ไม่ต้องจ่ายเงินค่ะ สนใจติดต่อ ฐาณิญา ไทยธานี (นัท) บริษัท กรีนนี่ เฮลท์ (ประเทศไทย) จำกัด Mobile 084 639 7059 niya@greenie.co.th
1 มกราคม 2557     |      4611
สัมมนา ?นวัตกรรมสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม?
สนช. เชิญร่วมงานสัมมนา “นวัตกรรมสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” วันที่ 31 มี.ค. 2554 ปัจจุบัน กระแสหลักของประชาคมโลกได้ให้ความสำคัญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ของโลก ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีความตระหนักและรู้สึกรับผิดชอบกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ เกิดขึ้น ดังนั้น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สนช. จึงกำหนดจัดงานสัมมนาเรื่อง "นวัตกรรมสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" (Eco-friendly Innovative Textile) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมของผู้ประกอบการ รวมถึงแนะนำบทบาทและกลไกสนับสนุนของ สนช. เพื่อต่อยอดให้เกิดการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมได้ต่อไป ประกอบการ/เจ้าของธุรกิจ/นักวิชาการ หรือผู้ที่สนใจ สามารถร่วมงานสัมมนาเรื่อง “นวัตกรรมสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม 2554 เวลา 13.00-16.30 น. ณ ห้องกมลทิพย์ 1 ชั้น 2 โรงแรมสยามซิตี้ กรุงเทพฯ
1 มกราคม 2557     |      5072
กฟน. บริการล้างแอร์ราคาพิเศษ!
กฟน.ห่วงหน้าร้อนใช้ไฟพุ่ง บริการล้างเครื่องปรับอากาศในราคาพิเศษ 300 บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะครบ 18,000 เครื่อง การไฟฟ้านครหลวง บริการล้างเครื่องปรับอากาศในราคาพิเศษ 300 บาท แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ จำนวน 18,000 เครื่อง นางศิริวรรณ กิติคุณ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม ผู้ใช้ไฟฟ้ามักมีการใช้เครื่องปรับอากาศมากเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศที่ไม่ได้ทำความสะอาดหรือไม่ค่อยได้ล้าง ทำให้เครื่องปรับอากาศสกปรกและฝุ่นละอองอุดตัน เป็นสาเหตุให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักและสิ้นเปลืองไฟฟ้ามาก การไฟฟ้านครหลวงจึงมีบริการล้างเครื่องปรับอากาศในราคาถูกเป็นพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการดูแลบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศในช่วง ฤดูร้อนที่จะถึงนี้ แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ จำนวน 18,000 เครื่อง ในราคาเครื่องละ 300 บาท (ทั้งนี้ราคาดังกล่าวจะเป็นการล้างเครื่องปรับอากาศที่อยู่ในสภาพปกติ โดยการไฟฟ้านครหลวงจะดำเนินการล้างเครื่องปรับอากาศทั้งในส่วนที่ติดตั้งภาย ในบ้านและคอมเพรสเซอร์ที่ตั้งอยู่นอกบ้านเท่านั้น ซึ่งไม่รวมค่าเติมน้ำยาแอร์และบริการเสริมอื่นๆ) ผู้ใช้ไฟฟ้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสมัครใช้บริการได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า Call Center 1130 ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป
1 มกราคม 2557     |      5239
แจกหนังสือ
กระทรวงพลังงานแจกหนังสือ "10 ธุรกิจตาสว่าง พลังงานทางเลือกไทย" สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน จัดทำหนังสือ “10 ธุรกิจตาสว่าง พลังงานทางเลือกไทย” คัดเลือกตัวอย่างธุรกิจด้านพลังงานทางเลือก ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาธุรกิจพลังงานควบคู่ไปกับการอยู่ร่วมกับชุมชน และสิ่งแวดล้อม อาทิ ห้วยน้ำรินฟาร์ม ที่มีการจัดการลดปัญหาน้ำเสียจากฟาร์มไก่มาผลิตก๊าซชีวภาพ ซึ่งมีผลพลอยได้เป็นไฟฟ้า ก๊าซ LPG และปุ๋ยชีวภาพ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อนำประสบการณ์มาถ่ายทอดและต่อยอดความคิดแก่ประชาชนทั่วไปให้เข้าใจถึงแนวคิดการจัดการด้านพลังงานทางเลือก เพื่อนำไปสู่การพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืน ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับหนังสือได้ฟรี โดยส่งซองเปล่าขนาด 18 x 25 ซม. (ขนาด A4 พับ ครึ่ง) ติดสแตมป์ 5 บาท จ่าหน้าซองถึงตัวท่านเองส่งมาที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหาร 2 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน 121/2 ถ.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 วงเล็บมุมซอง “ขอรับหนังสือ 10 ธุรกิจตาสว่าง”
1 มกราคม 2557     |      4177
ทั้งหมด 11 หน้า